ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ " gmat "

ข้อสอบ gmat

ข้อสอบ gmat
ข้อสอบ gmat

รายละเอียดของข้อสอบ GMAT

รายละเอียดของข้อสอบ GMAT
วันที่ 17 มีนาคม 2549
เรียบเรียงโดย: ดร.สิระ สุทธิคำ, สถาบัน Kendall Square
www.ToeflThailand.com

Graduate Management Admission Test หรือข้อสอบ GMAT เป็นข้อสอบที่ใช้วัดความสามารถของผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกสาขาบริหารธุรกิจซึ่งรวมทั้ง MBA, M.S. Marketing, M.S. Finance, MIS (สำหรับสาขา MIS ของบางมหาวิทยาลัยอาจต้องใช้คะแนน GRE แทน), DBA, และ Ph.D. ด้านบริหารธุรกิจส่วนใหญ่ต้องใช้คะแนน GMAT ในการพิจารณารับนักศึกษา

ภาพรวมของข้อสอบ
เป็นการวัดความรู้ในการสื่อสารซึ่งรวมทั้งการอ่านและการเขียน, ทักษะการวิเคราะห์, และ ทักษะในการคำนวณ ที่จะสามารถใช้เป็นเครื่องชี้วัดความสำเร็จในการเรียนต่อทางด้านบริหารธุรกิจ
จาก website ของผู้ออกข้อสอบ
www.mba.com ระบุไว้ชัดเจนว่าข้อสอบ GMAT ไม่สามารถใช้วัดความสามารถในเรื่องต่อไปนี้

• ความรู้เฉพาะทางของธุรกิจเช่น มาตรฐานของบัญชี หรือ กฎหมายธุรกิจ
• ทักษะเฉพาะด้านของงาน (specific job skill) หรือเนื้อหาจากบทเรียนระดับปริญญาตรีด้านบัญชีและบริหาร
• คุณสมบัติอื่นของการเป็นนักธุรกิจที่ดีเช่นความมุ่งมั่น, ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์, และความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น

รูปแบบของข้อสอบและเวลา
ข้อสอบ GMAT ประกอบด้วยข้อสอบ 3 ส่วนคือ 1. การเขียน (Analytical Writing Assessment) 2. คณิตศาสตร์ (Quantitative) และ 3. ภาษาอังกฤษ (Verbal)

ข้อสอบการเขียน (AWA)
ข้อสอบ GMATเริ่มจากการทำข้อสอบเขียนก่อนเสมอ โดยจะมีรูปแบบของข้อสอบ 2 ลักษณะได้แก่ 1.การเขียนเพื่อแสดงความคิดเห็น (Issue) และ 2.การเขียนเพื่อแสดงวิจารณ์บทความ (Argument) ผู้เข้าสอบจะมีเวลา 30 นาทีต่อหนึ่ง essay

ข้อสอบคณิตศาสตร์ (Quantitative)
หลังจากการพักจากข้อสอบการเขียน 10 นาที ผู้เข้าสอบจะต้องทำโจทย์เลขแบบ multiple-choice จำนวน 37 ข้อโดยมีรูปแบบของข้อสอบสองลักษณะนั้นคือ 1. Problem Solving ~24 ข้อ และ 2. Data Sufficiency ~13 ข้อ โดยมีเวลาทำข้อสอบทั้งสิ้น 75 นาที คอมพิวเตอร์จะหยุดการทำงานทันทีเมื่อเวลาหมด

ข้อสอบภาษาอังกฤษ (Verbal)
หลังจากการพักจากข้อสอบคณิตศาสตร์แล้ว ผู้เข้าสอบสามารถพักหรือทำข้อสอบภาษาอังกฤษ (Verbal) ต่อเนื่องเลยได้ โดยข้อสอบส่วนนี้จะเป็นโจทย์แบบ multiple-choice จำนวน 41 ข้อโดยมีรูปแบบของข้อสอบสามลักษณะนั้นคือ 1. การอ่าน (Reading Comprehension) ~14 ข้อ 2. การวิเคราะห์ (Critical Reasoning) ~14 ข้อและ 3. ไวยกรณ์และการเขียน (Sentence Correction) ~13 ข้อ โดยมีเวลาทำข้อสอบทั้งสิ้น 75 นาที คอมพิวเตอร์จะหยุดการทำงานทันทีเมื่อเวลาหมด

http://toefl121.blogspot.com/

http://toeic1.blogspot.com/

ตัวอย่างข้อสอบGmat

Example:

The rise in negative attitudes toward foreigners indicate that the country is becoming less tolerant, and therefore that the opportunities are ripe for extremist groups to exploit the illegal immigration problem.

(A) indicate that the country is becoming less tolerant, and therefore that
(B) indicates that the country is becoming less tolerant, and therefore
(C) indicates that the country is becoming less tolerant, and therefore that
(D) indicates that the country is being less tolerant, and therefore
(E) indicates that the country is becoming less tolerant of and therefore that

Choice (A) has two flaws. First, the subject of the sentence the rise is singular, and therefore the verb indicate should not be plural. Second, the comma indicates that the sentence is made up of two independent clauses, but the relative pronoun that immediately following therefore forms a subordinate clause.

Choice (C) corrects the number of the verb, but retains the subordinating relative pronoun that.

Choice (D) corrects the number of the verb and eliminates the subordinating relative pronoun that. However, the verb being is less descriptive than the verb becoming: As negative attitudes toward foreigners increase, the country becomes correspondingly less tolerant. Being does not capture this notion of change.

Choice (E) corrects the verb's number, and by dropping the comma makes the subordination allowable. However, it introduces the preposition of which does not have an object: less tolerant of what?

Choice (B) both corrects the verb's number and removes the subordinating relative pronoun that. The answer is (B).

ศึกษาข้อมูลก่อนสอบ gmat

Friday, April 18, 2008

การคิดคะแนนของ GMAT

การคิดคะแนนของ GMAT

จะมีการติดลบ 1 ใน 4 สำหรับข้อที่เลือกผิดทุกข้อ และการรายงานผลจะรายงานคะแนน 3 ครั้งล่าสุด มหาวิทยาลัยบางแห่ง อาจจะพิจารณาเฉพาะ ผลคะแนนครั้งที่ดีที่สุด แต่บางแห่ง อาจจะพิจารณาคะแนนเฉลี่ยของ ทั้ง 3 ครั้ง ในคณะที่มหาวิทยาลัยบางแห่ง อาจจะพิจารณาจากพัฒนาการของนักศึกษาจากผลที่ได้แต่ละครั้ง คะแนน GMAT จะอยู่ระหว่าง 200- 800 คะแนน ส่วนใหญ่นักศึกษาจะทำได้ประมาณ 250-700 ในส่วนการเขียนเชิงวิเคราะห์ จะมีคะแนนในช่วง 0-6 ผู้ที่ไม่ทำข้อสอบทั้ง 2 ชุด คือ ทั้งการเขียนบทความ และการทำข้อสอบปรนัย จะไม่ได้รับผลคะแนน เนื่องจากถือว่าทำข้อสอบ ไม่สมบูรณ์ ปัจจุบัน ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสอบ GMAT ในประเทศไทย ให้เป็นแบบการสอบกับคอมพิวเตอร์

คะแนน GMAT กับ Business Schools

คะแนน GMAT ที่ผู้สอบจะได้รับ จะมีแบ่งเป็นส่วนๆ ดังต่อไปนี้

  • Quantitative ระดับคะแนน อยู่ในช่วง 0 ถึง 60


  • Verbal ระดับคะแนนอยู่ในช่วง 0 ถึง 60


  • Overall ระดับคะแนนอยู่ในช่วง 200 ถึง 800 ซึ่งเป็นคะแนนหลังจากนำ สองส่วนแรกมารวมกันแล้วนำมาเทียบให้อยู่ในช่วงคะแนน สองร้อยถึงแปดร้อย


  • Analytical Writing Assessment ระดับคะแนน อยู่ในช่วง 0 ถึง 6 โดยจะเป็นคะแนนแยกจากสองส่วนแรก ส่วนนี้สำคัญน้อยกว่าสอง ส่วนแรก
การเรียน MBA ในมหาวิทยาลัยดังๆ ส่วนใหญ่ ก็หมายถึง การที่จบมาแล้วได้งานทำดีๆ เงินเดือนมาก ฉะนั้น การแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัยดัง จึงค่อนข้างสูง ฉะนั้น ผล GMAT ที่จะใช้เพื่อให้ได้รับการตอบรับเข้าเรียน ก็สูงตามไป อย่างช่วยไม่ได้ ตารางข้างล่าง เป็นคะแนนโดยเฉลี่ย ของ ผู้ที่จะเข้าเรียน MBA ในมหาวิทยาลัย ต่างๆ ใน สหรัฐอเมริกา

border=0>

tanford University



730
Cornell Univeristy



670
Georgetown University



655
University of Pittsburgh



620

No comments: